แบตเตอรี่เครื่องช่วยฟัง ให้กำลังไฟขนาด 1.4 โวลต์ แตกต่างจากถ่านนาฬิกา หรือ ถ่านไฟฉายทั่วไปที่ให้กำลังไฟ 1.5 โวลต์ ถ้านำถ่านนาฬิกา หรือ ถ่านกระดุมมาใส่ในเครื่องช่วยฟังจะทำให้ แอมปลิไฟร์ (Amplifier) ที่เป็นไมโครชิพอยู่ภายในเครื่องอาจจะชำรุด หรือ อายุการใช้งานเครื่องจะลดลง เนื่องจากเครื่องได้รับกระแสไฟแรงเกินไป
แบตเตอรี่ หรือ ถ่าน ถูกผลิตขึ้นโดยใช้ปริมาณแร่ธาตุปรอทเพื่อช่วยในการนำไฟฟ้าและทำให้ส่วนประกอบภายในมีเสถียรภาพ แต่สารปรอทไม่ควรนำมาใช้ในการผลิตอีกต่อไป การเลือกซื้อควรจะเลือกแบตเตอรี่แบบใหม่ที่ปราศจากสารปรอท (Mercury-Free Zinc Air) แต่ใช้สาร (Zinc) เป็นวัตถุดิบ แทนที่สารปรอทแบบเก่าซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย และทำลายสิ่งแวดล้อม สารสังกะสีเป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ย่อยสลายได้ง่าย ให้กระแสไฟสูงอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาการใช้งาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ด้านประสิทธิภาพของแบตเตอรี่แบบใหม่เปรียบเทียบกับแบตเตอรี่แบบเก่า จะเท่ากันเมื่อใช้ในเครื่องช่วยฟังชนิดเดียวกัน
ไม่มีสารพิษ
สารปรอทเป็นโลหะหนักและเป็นพิษต่อร่างกาย แต่สารสังกะสีเป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ไม่มีสารปรอท
แบตเตอรี่แบบเดิม มีสารปรอทเป็นส่วนประกอบประมาณ 1% เนื่องจากปรอทเป็นโลหะจึงเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ย่อยสลายได้ง่าย ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐาน IEC ใหม่ที่กำหนดไว้สำหรับเครื่องช่วยฟัง
แบตเตอรี่มาตราฐาน ทุกก้อนจะถูกปิดด้วยสติกเกอร์แผ่นกระดาษวงกลมสีต่างๆ จากโรงงาน กระดาษที่แปะนี้จะกันไม่ให้ออกซิเจนในอากาศเข้าไปทำปฏิกิริยากับถ่านก่อนใช้งาน เมื่อดึงกระดาษออก ออกซิเจนในอากาศจะผ่านรูนี้เข้าไป กระตุ้นให้ถ่านอยู่ในภาวะพร้อมใช้งานได้ทันที เมื่อลอกสติ๊กเกอร์ออกจากถ่าน ถ้าพบคราบกาวสติ๊กเกอร์ที่อาจติดอยู่บนผิวถ่าน ให้เช็ดคราบกาวออกเพื่อไม่ให้ปิดรูทางเข้าของอากาศ หลังจากลอกสติ๊กเกอร์ออกทิ้งไว้ให้อ๊อกซิเจนใช้เวลาทำปฏิกิริยาประมาณ 2-3 นาที เมื่อไม่ได้ใช้งานเครื่องช่วยฟัง ควรถอดแบตเตอรี่ออกจากรังถ่านทุกครั้ง เพื่อยืดอายุการใช้งาน